กระแสK-pop

กระแสK-pop

     ในประเทศไทยเมื่อประมาณ 10 ปีก่อนหน้าที่วัยรุ่นไทยสมัยนี้ จะ

คลั่งไคล่กระเเส K-POP กระเเส J-POP ของญี่ปุ่น จีน ไต้หวัน หรือ

ฮ่องกง เองก็เคยเกิดกระเเสในประเทศมาก่อน จนเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา

 กระเเสK-POPในเกาหลี ได้เผยเเพร่มายังประเทศไทยเเละแถบ

เอเชีย เช่น มาเลยเซีย สิงค์โปร์ ฮ่องกง จีน หรือแม้แต่ในประเทศ

ญี่ปุ่นเองก็ยังรับกระเเสตรงนั้นมาด้วย   กระเเสเกาหลีจริงๆเเล้วเริ่ม

เเรกเลย เริ่มมาจาก ซีรีย์ซะส่วนใหญ่ที่เป็นส่วนที่ทำให้ผู้คนเริ่มหันมา

สนใจประเทศเกาหลีมากขึ้น รวมถึงเพลงเกาหลี อย่าง K-POP ด้วย

     โดยวัยรุ่นส่วนใหญ่เเล้วมองว่า เพลง K-POP มีจังหวะหรือท่าเต้น

ที่ง่ายต่อการจำ เพลงติดหู  หรือหน้าตาของศิลปินเองก็มีส่วน ทำให้

วัยรุ่นไทยส่วนใหญ่หันมาเต้นเลียนเเบบศิลปินที่ตัวเองชื่นชอบหรือ 

เต้น Cover นั้นเอง ปัจจุบันสถาบันสอนเต้นมีผู้สมัครเรียนเต้น K-

POP dance มากกว่า เเขนงอื่น เเละมีการประกวดเเข่งขันเต้นเพื่อชิง

รางวัลมากมาย

     ในระยะเวลาไม่นานนักหลังจากที่เกิดปรากฏการณ์วัฒนธรรม

ประเทศเกาหลีหลั่งไหลเข้ามาในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์

ซีรีย์ เพลง ยังรวมถึงแฟชั่นของประเทศเกาหลี ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า

 การเเต่งหน้า การแต่งตัว ทรงผม ทำให้มีผู้คนไม่น้อยนอกจากเด็กวัย

รุ่นเเล้วยังรวมถึงผู้ใหญ่ในวัยทำงานอีกมาก ชื่นชอบในเเฟชั่นของ

เกาหลี   ดูง่ายๆจากสินค้าตามท้องตลาดหรือเว็ปไซต์ขายสินค้าต่างๆ

 พ่อค้าแม่ค้าทั้งหลายจะติดป้ายว่า เสื้อผ้าพรีออเดอร์จากเกาหลี 

สินค้าจากเกาหลี เครื่องสำอางค์เกาหลี เป็นต้น 

     เว็บไซต์ต่างๆ รวมไปถึง ข้อมูลการค้นหา จะติดสินค้าที่มีของ

เกาหลีรวมอยู่ด้วยทั้งสิ้น อีกอย่างที่เห้นตามท้องตลาดเลยก็คือสินค้า

บริโภค ไม่ว่าจะเป็นอาหาร เครื่องดื่มต่างๆ เป็นที่นิยมมาก

     ด้วยการที่นิยมเกาหลี ไม่ว่าจะเป็นเพลง หรือ ซีรีย์ดังต่างๆ ทำให้

คนไทยนิยมเที่ยวเกาหลีมากขึ้น จะเห้นได้ว่าในทุกๆปี นักท่องเที่ยว

ไทย เพิ่มขึ้นทุกๆปี เเละในเเต่ละปีมีเงินเข้าประเทศเกาหลีมากขึ้น 

ส่วนใหญ่ตามทัวร์ต่างๆ จะมีโปรแกรมตามรอยซีรีย์ นักร้องแทบทั้งสิ้น

     ปรากฏการณ์เหล่านี้บ่งบอกได้ชัดถึง กระแสบริโภคอุตสาหกรรม

เพลงไทย หรือความเป็นวัฒนธรรมไทยกำลัง "ถูกรุก" ด้วยกระแส K-

Pop ที่นับวันจะแรงยิ่งขึ้นเรื่อยๆ แบบแรงไม่ตก จึงเป็นเรื่องที่น่าคิดว่า

เหตุใดสภาพสังคมและพฤติกรรมการเลือกฟังเพลงของวัยรุ่นจึงเป็น

เช่นนี้ได้ เนื่องจากกระเเสเกาหลีดังจนฉุดไม่อยู่เเล้ว
    
    ปัจจุบันมีคนหลายกลุ่มรุกขึ้นมาต่อต้าน หรือ แอนตี้ K-POPเป็น

จำนวนมาก รวมถึงเกิดการวิพากษ์วิจารณ์ ว่า K-POP จะอยู่ได้อีกกี่ปี

ก็เป็นเรื่องที่ถกเถียงกันอยู่

สรุปแล้ว 


     ไม่ว่ากระเเส K-POP จะอยู่ได้อีกกี่ปี ก็ขึ้นอยู่กับความชอบเเละ  

วิจารณญาณของเเต่ละบุคคล  ควรเลือกรับในสิ่งที่สมเหตุสมผล ไม่

ควรตามกระเเสมากจนเกินไปเเละ ไม่ควรตามกระเเสวัตถุนิยม เราเป็น

คนไทยก็ต้องมีวัฒนธรรมเเบบไทยๆ ถ้าเลียนเเบบทั้งหมดก็อาจเกิด

ผลกระทบที่ตามมาได้ในอนาคต













ที่มา : http://s-fu.blogspot.com/

การสร้างเว็บไซต์/บล็อก ด้วย WordPress

ที่มา: https://www.youtube.com/watch?v=WZAXFiaCvlE

ไขความสงสัย K-pop

K-Pop คืออะไร

     หลายคนอาจจะสงสัยว่าK-popคืออะไร Kแปล

ว่าKorea(เกาหลี)Popแปลว่าสไตล์ของเพลงอย่าง เช่น

ร็อค(rock),แจ๊ส(jazz) ศิลปินเกาหลีตอนนี้ส่วนมากจะใช้สไตล์ไป

เขียนเพลงแล้วแสดง หลายวงมากมายที่เราคุ้นเคยก็จะออกแนว

นี้popก็สามารถแปลเป็นpopularนั่นก็คือสิ่งที่ยอดนิยมหรือว่าสิ่งที่ทุก

คนชอบ รูปศิลปินต่อไปนี้จะเป็นศิลปินที่ยอดนิยมและใช้สไตล์k-pop


Shinee




Super Junior





Girl's Generation









ฯลฯ








ที่มา: https://kpopmusicnews.wordpress.com/2010/04/21/hello-world/

K-pop คือ อะไร?

       T-pop , J-pop , K-pop สิ่งเหล่านี้คืออะไร ??   เพลงป๊อปที่ใครๆ

หลายคนพูดถึงแท้จริงแล้วมันคืออะไร มีลักษณะยังไงกันแน่  จะมี

ใครบ้างที่จะสามารถอธิบายถึงลักษณะแนวเพลงที่เราชอบฟังได้  

คนส่วนมากรู้จัก เจป๊อป เคป๊อป ทีป๊อป แต่น้อยคนมากที่จะสามารถ

อธิบายออกมาถึงลักษณะของมัน 

                  

                   ดนตรีป็อป หรือ เพลงป็อป (Pop music หรือ Pop 

song) เป็นแนวเพลงซึ่งมีลักษณะของโมโลดี้ที่ฟังง่าย ฟังสบาย และ

มีท่วงทำนองที่พริ้วไหว สามารถสร้างความสนุกสนานให้กับผู้ฟังได้ 

ดนตรีป็อบมักถูกนำมาผสมผสานกับกลิ่นอายของดนตรีแนวอื่นๆ เช่น

 ร็อก,แจ๊ส, ฮิปฮอป, เร้กเก้ , ดนตรีอิเล็กทรอนิกส์แดนซ์ , อาร์แอนด์

บี, ฟังก์ หรือแม้แต่โฟล์ก

                    เพลงป็อปจะถูกแต่งขึ้นเพื่อหวังกลุ่มคนฟังกลุ่มใหญ่

โดยได้แรงผลักดันจากค่ายเพลงใหญ่ เริ่มจากในดนตรีประเภท 

Ragtime จากนั้น Ragtime เริ่มมาทางสวิง จากนั้นก็เป็นดนตรีแจ๊สที่

สามารถเต้นรำได้ ดนตรีป็อปสามารถรวมได้ถึงบลูส์ที่มีต้นกำเนิดจาก

คนผิวดำในอเมริกา และดนตรีคันทรีที่เริ่มปรับจนกลายเป็นแนวเพลง

ร็อกแอนด์โรลล์ยุคแรก

เคป็อป (อังกฤษ: K-pop)

                          หรือเพลงป็อปเกาหลี โดยเฉพาะเพลงจาก

เกาหลีใต้ ที่มีศิลปินทั้งกลุ่มและเดี่ยวมากมายอย่างเช่น ชินฮวา, 

โบอา, เรน, เซเว่น, ทงบังชินกี, โซนยอชิแด, มิสเอ, คารา, วันเดอร์

เกิลส์, ซูเปอร์จูเนียร์, ชายนี่, ทูพีเอ็ม, เอฟ (เอกซ์), ที-อาร่า, เอพิ้งค์ 

(A Pink), บีสท์, EXO(เอ็ก-โซ) B.A.P. (บีเอพี)และบิ๊กแบง นอกจาก

นี้ ยังมีประเทศอื่นที่ได้รับความนิยมด้วย เช่น จีน, ญี่ปุ่น, ไต้หวัน,

 ฮ่องกง, ฟิลิปปินส์, ไทย และประเทศอื่นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

 ความนิยมในดนตรีเกาหลีมักจะถูกพิจารณาว่าเป็นหนึ่งในการเติบโต

ของความคลั่งไคล้ในกระแสเกาหลี ที่นิยมในวัฒนธรรมเกาหลีของคน

เอเชีย

ที่มา: http://www.oknation.net/blog/Melody-

InBlog/2013/08/19/entry-1

เตรียมข้อมูลทำเว็บไซต์อย่างไรดี

เตรียมข้อมูลทำเว็บไซต์อย่างไรดี      ในการสร้างเว็บไซต์ ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ที่เขียนด้วยโปรแกรมสร้างเว็บไซต์ หรือระบบเว็บไซต์ สำเร็จรูป  การเตรียมเนื้อหาสำหรับแสดงผลบนหน้าเว็บไซต์ ถือเป็นจุดเริ่มต้นและเป็นหัวใจสำคัญ ในการสร้างเว็บไซต์ เพราะเนื้อหาเป็นส่วนที่ทำให้ผู้อ่านทราบถึงจุดประสงค์ว่าเราทำเว็บไซต์เพื่ออะไร   ต้องการนำเสนอสินค้า บริการ หรือข้อมูลด้านใดเป็นสำคัญ  เป็นการสร้างความเข้าใจต่อผู้ชม และนำ ไปสู่การสั่งซื้อสินค้าหรือเลือกใช้บริการองค์กรของท่านในที่สุด  โดยมีขั้นตอนการเตรียมข้อมูลที่ไม่ยาก   ดังนี้  "เริ่มต้นทำเว็บไซต์ ด้วยการเตรียมข้อมูลสินค้าและบริการ"      ประเภทของข้อมูลที่นิยมใช้ในระบบเว็บไซต์สำเร็จรูป  แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ดังนี้ - ข้อมูลตัวอักษร เช่น เนื้อหาข่าว  รายละเอียดสินค้าแต่ละชิ้น เพื่อความสะดวกรวดเร็วใน การใส่รายละเอียดบนหน้าเว็บไซต์ อาจพิมพ์ข้อมูลตัวอักษรเก็บไว้ในโปรแกรม Notepad ,  Microsoft  Word เป็นต้น  ตัวอย่างการแสดงผลการเตรียมข้อมูลสินค้าในโปรแกรม Notepad - รูปภาพประกอบ  ไม่ว่าจะเป็นภาพถ่ายจากกล้องดิจิตอล การสแกนจากรูปถ่ายที่เป็นกระดาษ หรือการสร้างรูปภาพจากโปรแกรมตกแต่งภาพต่าง ๆ  โดยเป็นไฟล์ภาพนามสกุล (Type) เป็น .gif / .jpeg และควรย่อภาพให้มีขนาดไม่เกิน (Size) 500 KB เพื่อให้ภาพมีขนาดเล็กพอเหมาะ กับการแสดงผลบนหน้าเว็บไซต์  ไม่ทำให้หน้าเว็บไซต์โหลดข้อมูลช้า ตัวอย่างการแสดงผลการเตรียมรูปภาพในเครื่องคอมพิวเตอร์  (รูปภาพชื่อ FruitMilky2 นามสกุล .jpg  มีความกว้างและสูง (Dimension) 300x300 Pixels  มีขนาดไฟล์ 41 KB ) ตัวอย่างโปรแกรมสำหรับย่อและตกแต่งรูปภาพอย่างง่าย  (Freeware) Pixresizer                PhotoScape                    ใช้ในการย่อรูปภาพ  สามารถย่อขนาด รูปภาพได้ทีละหลายๆรูปพร้อมกัน               ใช้ในการตกแต่งรูปภาพ               ใส่กรอบ                 เอฟเฟคต่างๆอย่างง่าย                                                Picasa                                                        เป็นฟรีโปรแกรมจาก Google ช่วยจัดระเบียบเกี่ยวกับไฟล์รูป แก้ไข                                           ตกแต่งรูปภาพ - ไฟล์เอกสารประกอบ ที่ต้องการให้ผู้เข้าชมเว็บไซต์สามารถคลิกดาวน์โหลดไปอ่าน หรือใช้งานต่อได้   เช่น แบบฟอร์มใบสมัคร  โบรชัวร์  เป็นต้น  โดยระบบรองรับไฟล์ ได้แก่ ไฟล์นามสกุล.doc, .xls, .ppt, .pdf, .txt, .zip, และ .rar (ควรมีขนาดไม่เกิน 10 MB ต่อ 1 ไฟล์)  จัดแบ่งข้อมูลออกเป็นหมวดหมู่      เมื่อทราบถึงคุณสมบัติของข้อมูลที่ระบบเว็บไซต์สำเร็จรูป ยอมรับแล้ว  ต่อมาคือการวางแผนจัด แบ่งข้อมูลออกเป็นหมวดหมู่  โดยคำนึงถึงจุดประสงค์หลักว่า "เราจัดทำเว็บไซต์เพื่ออะไร"  เช่น เพื่อนำเสนอขายสินค้า, เพื่อประชาสัมพันธ์องค์กร, เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้, เพื่อเผยแพร่ข่าวสาร เป็นต้น  โดยแนะนำให้จำแนกข้อมูลออกเป็น 3 หมวดหมู่หลักๆ(อาจร่างแบบคร่าวๆในกระดาษก่อน) ดังนี้        กลุ่มบทความ  คือ กลุ่มของข้อมูล ข่าวสาร เรื่องราว ความรู้ต่าง ๆ ที่ต้องการเผยแพร่บนหน้าเว็บไซต์  เช่น      - กลุ่มข่าวประชาสัมพันธ์ เพื่อนำเสนอบทความข่าวสาร กิจกรรมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในองค์กร       - กลุ่มบทความสาระความรู้ นำเสนอเกร็ดความรู้ต่าง ๆ  ที่มีประโยชน์กับผู้อ่านซึ่งเกี่ยวข้องกับข้อมูลในเว็บไซต์       - กลุ่มบทความข้อมูลสินค้า  ที่ใช้บทความช่วยนำเสนอ ข่าวที่เกี่ยวข้องกับสินค้าในเว็บไซต์  ลูกค้าสามารถอ่านเป็นความรู้ เพิ่มเติม  ช่วยประกอบการตัดสินใจในการเลือกซื้อสินค้าได้ดียิ่งขึ้น เป็นต้น    กลุ่มสินค้า  คือ กลุ่มของสินค้าประเภทต่าง ๆ สำหรับเว็บไซต์ที่มีระบบตะกร้าสินค้า ที่ต้องการ ขายและให้ลูกค้าสามารถคลิกสั่งซื้อผ่านเว็บไซต์ได้โดยตรง  ในการแยกกลุ่มสินค้า  อาจใช้ หลักการแยกกลุ่ม เช่น แยกตามชนิดของสินค้า  แยกตามลักษณะการใช้งาน  แยกตามการจัด โปรโมชั่น  เป็นต้น  โดยคำนึงถึงความสะดวกของลูกค้าในการเข้าชมสินค้าบนหน้าเว็บไซต์เป็นหลัก           นอกจากนี้  ท่านสามารถสร้างหมวดหมู่สินค้าได้หลายลำดับชั้น คือ เมื่อมีการสร้างหมวดหมู่หลัก ของสินค้าแล้ว  ภายในยังสามารถแยกหมวดหมู่ย่อยๆ ตามคุณสมบัติเพิ่มเติมของสินค้าได้อีก  เช่น  เว็บไซต์จำหน่ายเบอเกอรี่ จำหน่ายขนมเค้ก คุ้กกี้ และขนมไทย ซึ่งหมวดหลักขนมเค้ก สามารถแบ่งหมวดย่อยๆเป็น เค้กผลไม้ เค้กช็อกโกแลต เค้กการ์ตูน เค้กแต่งงาน  เป็นต้น  (สามารถสร้างหมวดหมู่ย่อยได้ถึง 5 ลำดับชั้น)    ข้อมูลอื่นๆ คือ ข้อมูลนอกเหนือจาก 2 ข้อข้างต้น ที่ไม่จำเป็นต้องจัดรวมอยู่ในกลุ่มข้อมูลอื่น ๆ หรือมีเนื้อหาที่จบเรื่องได้ภายในหน้าเดียว  เช่น่ รายละเอียดบทนำที่ใช้แจ้งข้อความต้อนรับผู้อ่านสู่ เว็บไซต์  ประวัติองค์กร  ข้อมูลติดต่อเรา  หากเป็นเว็บไซต์ขายสินค้า อาจมีข้อมูล วิธีการสั่งซื้อ สินค้า  วิธีการชำระเงิน เพิ่มเติม เป็นต้น   ที่มา: http://www.readyplanet.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=539161873&Ntype=17

การเลือกรูปแบบเว็บไซต์และจัดโครงสร้างหน้าแรก

         การเลือกรูปแบบเว็บไซต์และจัดโครงสร้างหน้าแรก

        หลังจากที่แนะนำการ ใส่ข้อมูลในระบบเว็บไซต์

สำเร็จรูป สำหรับจะแสดงในเว็บไซต์ในตอนที่แล้ว ก็จะเข้าสู่ขั้นตอน

การเลือกข้อมูลบางส่วนมาแสดงผลบนหน้าเว็บไซต์  โดยเริ่มจากการ

เลือกรูปแบบเว็บไซต์ (Template) และจัดโครงสร้างการแสดง

ผลของเว็บไซต์ (Layout)  ว่าต้องการจะสร้างเว็บไซต์ให้อยู่ในรูป

แบบใด เช่น มีการแสดงข้อมูลบนหน้าแรกแบบโครงสร้างข้อมูล

คอลัมน์เดียว หรือมีสองคอลัมน์ซ้ายและขวาแสดงข้อมูลสองกลุ่มคู่

กัน  เมนูย่อยจะอยู่ซ้ายหรือขวา เป็นต้น โดยมีวิธีการดังนี้ค่ะ

 เลือกรูปแบบเว็บไซต์ (Template)

     เบื้องต้นท่านจะต้องเลือกรูปแบบ Template แบบใดแบบหนึ่ง

จากระบบก่อน แต่ภายหลังท่านสามารถเปลี่ยนสีและรูปภาพส่วนหัว

เป็นภาพที่ท่านออกแบบมาเองได้ค่ะ โดยมีรูปแบบของ Template 

ให้เลือกตามกลุ่มธุรกิจและประโยชน์ใช้สอย  ซึ่ง ReadyPlanet จะมี

การ Update เพิ่ม Template รูปแบบใหม่ๆอยู่เสมอเพื่อให้ครอบคลุม

ทั่วถึงทุกการใช้งานของท่าน ไม่ว่าจะเป็น ธุรกิจ บริการ สมาคม หรือ 

เว็บไซต์แบบส่วนตัว และยังแยกเป็นสีสันสำหรับผู้ที่นิยมการใช้สีที่

แตกต่างกันออกไป

 หน้าที่ของ Template

1. กำหนดการแสดงผลของเมนูหลัก ซึ่งจะแสดงผลด้านบน

หรือด้านล่างของรูปส่วนหัว

2. กำหนดการแสดงผลรูปภาพส่วนหัวเริ่มต้น 

3. กำหนดรูปแบบเมนูย่อยอยู่ทั้งทางด้านซ้าย และด้านขวา 

และแบบไม่แสดงแถบเมนูย่อย

4. กำหนดเฉดสีของหน้าเว็บไซต์เริ่มต้น ทั้งสีตัวอักษร สีพื้น

หลัง สีหัวข้อเมนูต่าง ๆ 

5. กำหนดขนาดการแสดงผลของเว็บไซต์บนหน้าจอ

คอมพิวเตอร์ โดยมี 3 ขนาดให้เลือกใช้งาน 

     5.1. ขนาดเต็มหน้าจอ Full Screen เหมาะสำหรับ

เว็บไซต์ที่มีข้อมูลหรือเน้นการแสดงผลรูปภาพจำนวน

มาก เพราะจะแสดงผลได้โดยไม่ทำให้หน้าเว็บไซต์ขยาย

กว้างเกินภาพส่วนหัว

     5.2. ขนาดกลาง 1024x768 Pixels เหมาะสำหรับ

เว็บไซต์ที่นำเสนอข้อมูลสินค้าหรือบริการทั่วไป นิยมใช้

เทมเพลตขนาดกลางค่ะ

     5.3. ขนาดเล็ก 800X600 Pixels เหมาะสำหรับเว็บไซต์

ที่นำเสนอข้อมูลสินค้าหรือบริการไม่มาก เทมเพลตขนาดเล็ก

จะทำให้เว็บไซต์ไม่ดูโล่งจนเกินไป

 ชนิดของ Template แบ่งเป็น 2 ประเภทได้แก่

1.Template  แบบธรรมดา	Template แบบธรรมดา เป็นTemplate ที่มีแบนเนอร์ ส่วนหัวเป็นรูปนามสกุล .Gif หรือ .JPG ซึ่งเป็นภาพนิ่ง  โดยผู้แต่งเว็บสามารถเปลี่ยนภาพส่วนหัวเป็นภาพของ ท่านเองได้
2.  Flash Template	Template แบบที่มีส่วนหัวแบบ Flash Animation นั้น  จะเป็นเทมเพลตที่แบนเนอร์ส่วนบนใช้ไฟล์ Flash นามสกุล .swf ในการทำภาพเคลื่อนไหว มองดูน่าตื่นตาตื่นใจ เหมาะสำหรับผู้ที่รักการตกแต่งเว็บไซต์ให้ดูหวือหวา นอกจากนั้น ท่านยังสามารใส่ไฟล์ Flash ที่สร้างขึ้นมาเองลงไปแทนแบนเนอร์ส่วนหัวเดิมของ Template ได้อีกด้วย

  

 วิธีเลือกใช้เทมเพลต หลังจากล็อกอินเข้าส่วนสมาชิก ที่

เมนู "จัดการเว็บไซต์" คลิกเลือก "เลือกรูปแบบ

เทมเพลต" จากนั้น คลิกปุ่ม "เลือกใช้" ที่เทมเพลต ID ที่

ต้องการ

  จัดโครงสร้างการแสดงผลของเว็บไซต์ (Layout) 

 หน้าที่ของ Layout

     Layout คือ การจัดวางโครงร่างเนื้อหาแสดงหน้าแรกได้

อย่างง่ายๆ เพื่อแสดงผลกลุ่มบทความ หรือกลุ่มสินค้าที่สร้างไว้

ให้ปรากฎที่หน้าแรกของเว็บไซต์  คล้ายกับการจัดการหน้าของ

นิตยสาร ว่าจะให้คอลัมน์ไหน อยู่ตำแหน่งไหน

 เริ่มต้นด้วยการวาดโครงร่างเว็บไซต์หน้าแรก (Sitemap)

     ท่านสมาชิกอาจทดลองวาด Sitemap ของเว็บไซต์ เพื่อเป็น

โครงร่างของเว็บไซต์หน้าแรกคร่าว ๆ ในกระดาษก่อน เช่น จะ

แสดงผลข้อมูลกลุ่มสินค้าหรือกลุ่มบทความใดบ้าง จำนวนกี่

กลุ่ม  มีการจัดเรียงในลักษณะใด เป็นต้น 

     ตัวอย่างการจัดวาง Sitemap หรือโครงร่างเว็บไซต์

หน้าแรก ของเว็บไซต์ www.Cake2U.com

หมายเลข 1 แสดงผลรายละเอียดบทนำ 

หมายเลข 2 แสดงกลุ่มสินค้า "เค้กผลไม้"

หมายเลข 3 แสดงกลุ่มสินค้า "เค้กวันเกิด"

หมายเลข 4 แสดงกลุ่มบทความ "ข่าวประกาศจาก 

Cake2U"

หมายเลข 5 แสดงกลุ่มบทความ "เคล็ดลับน่ารู้"

 
 

 วิธีเลือกใช้เลย์เอาต์  
     

     ล็อกอินเข้าส่วนสมาชิก  ไปที่เมนู "จัดการเว็บไซต์" คลิก

เลือก "เลือกรูปแบบเลย์เอาต์" ซึ่งเลย์เอาต์ของระบบเว็บไซต์

สำเร็จรูป ReadyPlanet มี 2 ประเภท ได้แก่

     Static Layout เป็น Layout มาตรฐานของ ReadyPlanet ซึ่งมีให้เลือกใช้งานกว่า 30 รูปแบบ [ยกเว้น Layout ID : 99]   หากมีการเลือกใช้งานแล้วจะไม่สามารถปรับเปลี่ยน เพิ่มเติม ย้ายตำแหน่งใดๆได้อีก  เหมาะกับเว็บไซต์ที่มีข้อมูลที้ต้องการแสดงผลไม่เกิน 6 กลุ่มบทความ  และไม่ต้องการแสดงผลสินค้าจากระบบร้านค้าออนไลน์ Vela Commerce

     Dynamic Layout กรณีที่มีข้อมูลกลุ่มบทความที่ต้องการแสดงผลบนหน้าแรกของเว็บไซต์หลายกลุ่ม หรือแสดงผลสินค้าจากระบบร้านค้าออนไลน์ Vela Commerce จะต้องใช้งาน Layout ID 99 : Dynamic Layout  ช่วยให้การจัดวางข้อมูลหน้าแรกสวยโดดเด่น ไม่ซ้ำใคร ซึ่งสามารถเพิ่ม แก้ไขการแสดงผลได้บ่อยครั้งตามต้องการ หรือลบกลุ่มบทความที่ไม่ต้องการแสดงผลออกจากหน้าแรกได้  โดยที่ข้อมูลเดิมภายในเว็บยังอยู่ครบทุกประการ
    

      จากกรณีเว็บไซต์ตัวอย่าง www.Cake2U.com มีสินค้าจาก

ระบบร้านค้าออนไลน์ Vela Commerce ที่ต้องการนำมาแสดงบน

หน้าแรกของเว็บไซต์ จึงเลือกใช้ Dynamic Layout และ

ทำการเลือกกลุ่มข้อมูลมาแสดงผลบนหน้าแรก ตามโครงร่างที่

จัดวางไว้ค่ะ

 
  

 ตัวอย่างการแสดงผลหน้าแรกของเว็บไซต์ Cake2u.com 

ตามโครงร่าง Layout ที่กำหนดไว้

 

      ถึงขั้นตอนนี้ เว็บไซต์ของเราก็จะเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง และมีข้อมูล

มานำเสนอที่หน้าแรกของเว็บไซต์แล้วนะคะ  ตอนต่อไปจะเป็นการ

จัดการข้อมูลที่เป็นส่วนเสริม เช่น เมนูหลักด้านบน เมนูย่อยด้านข้าง 

การจัดการภาพส่วนหัว จัดการสีส่วนต่าง ๆ เป็นต้น 

ที่มา : http://www.readyplanet.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=539161876&Ntype=17